วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ระบบโทรศัพท์และหมายเลขโทรศัพท์สำคัญที่คุณควรรู้เวลาไปเที่ยวฮ่องกง


วันนี้ผมอยากจะขอแนะนำในส่วนของระบบโทรศัพท์ที่ใช้กันในฮ่องกงนะครับ ซึ่งแม้บางท่านอาจจะบอกว่า ฉันไม่จำเป็นต้องรู้ก็ได้ เพราะฉันใช้บริการโรมมิ่งจากเมืองไทยอยู่แล้ว นั่นก็ถูกครับแต่ว่ามันแพง (เอ๊ะยังไง) เนื่องจากว่า หากคุณทราบข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องระบบโทรศัพท์ในฮ่องกงแล้ว อาจช่วยให้คุณประหยัดไปได้เป็นอย่างมากเลยนะครับ เราลองมาดูเรื่องนี้กันดีกว่าครับ


สิ่งแรกที่คุณควรทราบเกี่ยวกับระบบโทรศํพท์ในฮ่องกงก็คือ การโทรศัพท์ภายในฮ่องกงเอง (Local Call) จะไม่เสียค่าบริการครับ  ซึ่งร้านค้าหรือโรงแรมในฮ่องกงจะมีโทรศัพท์ไว้บริการอยู่แล้ว แต่เพื่อความแน่ใจลองสอบถามก่อนว่ามีการคิดค่าบริการหรือไม่ เท่าไหร่ ก่อนนะครับ เพราะอาจจะทำให้คุณเสียค่าโทรที่แพงกว่าการใช้โทรศัพท์ตามตู้สาธารณะเลยครับ

ส่วนเครื่องโทรศัพท์สาธารณะระบบ IDD สามารถโทรทางไกลออกนอกประเทศได้ โดยมีทั้งแบบหยอดเหรียญและใช้บัตร โดยสามารถหาซื้อได้จากร้านค้า ศูนย์บริการข้อมูลการท่องเที่ยว (HKTA) รวมถึงร้านขายสินค้าที่ระลึกทั่วไป

อัตราค่าโทรศัพท์จากเครื่องโทรศัพท์หยอดเหรียญสาธารณะคิดค่าบริการครั้งละ 1 HK$ ใช้ได้นาน 5 นาที สำหรับการโทรกลับเมืองไทยแบบอัตโนมัติ กด 00 + 66 + รหัสจังหวัด + เบอร์โทรศัพท์ แล้วกดโทรออกได้เลยครับ

หากเปิดเบอร์โทรศัพท์มือถือมาจากประเทศไทย ก็กด 0066 ต่อด้วยเบอร์โทรศัพท์ที่ต้องการโทรออกได้เลยเหมือนกันครับ


ในกรณีที่คุณได้เดินทางไปเที่ยวที่ฮ่องกงแล้ว หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นและต้องการความช่วยเหลือใดๆ หรือต้องการตรวจสอบข้อมูลใดๆ ผมขอแนะนำหมายเลยโทรศัพท์ที่สำคัญๆ เพื่อช่วยคุณในยามที่ต้องการครับ

หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ

  • บริการค้นเลขหมายโทรศัพท์: 1081 
  • สอบถามเวลา: 18501 
  • สภาพอากาศ: 187 8066 
  • บริการโทรศัพท์ทางไกล IDD และการ์ดโฟน: 10013 
  • บริการฉุกเฉิน (ตำรวจ อัคคีภัย รถพยาบาล): 999 
  • บริการสายด่วน RTHK (ข่าวด่วน): +852 2272 000 
  • สายด่วนบริการนักท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวฮ่องกง: + 852 2508 1234 
ขอแนะนำให้ทำการพริ้นต์เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์ก่อนที่จะเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงกันเลยนะครับ



ฮ่องกงใช้เงินสกุลอะไร?



การจะไปเที่ยวฮ่องกง สิ่งหนึ่งที่ผมแนะนำว่าควรจะทำที่เมืองไทยก่อนที่จะเดินทางไปนั้น ก็คือ "การแลกเปลี่ยนเงินตรา" ครับ เพราะคุณคงจะเอาเงินบาทไปซื้อของในฮ่องกงก็คงจะไม่ได้ แต่ถ้าไปแลกที่ฮ่องกงเลย อาจจะได้ราคาแลกเปลี่ยนที่ไม่ดีนัก วันนี้เราลองมาดูกันก่อนว่า ฮ่องกงใช้เงินสกุลอะไร เรทควรจะอยู่เท่าไหร่กันดีกว่าครับ

สำหรับสกุลเงินที่นิยมใช้กันเป็นส่วนใหญ่ในฮ่องกงก็คือ เงินดอลลาร์ฮ่องกง (HK$) ครับ โดย 1 ดอลลาร์มี 100 เซ็นต์ครับ

แต่เวลาที่แลกเปลี่ยนหรือใช้จ่ายแล้วได้รับธนบัตรราคาเดียวกันแต่หน้าตาไม่เหมือนกันก็อย่าเพิ่งตกใจไปนะครับ เพราะฮ่องกงจะมีผู้ผลิตเหรียญและธนบัตรหลายเจ้าดังนี้ครับ

กรณีที่เป็นเหรียญ จะออกโดยรัฐบาลครับ สำหรับเหรียญ 10 เซ็นต์ 20 เซ็นต์และ 50 เซ็นต์ มีสีบรอนซ์

  • เหรียญ 1 HK$, 2 HK$, และ 5 HK$ มีสีเงิน 
  • ส่วนเหรียญนิคเกิลและบรอนซ์ใช้กับเหรียญ 10 HK$ 


ในส่วนธนบัตรจะมีผู้ออกดังนี้ครับ

  • ออกโดย HSBC และธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด มี 10 HK$, 20 HK$, 50 HK$, 100 HK$, 500 HK$ และ 1,000 HK$ 
  • ออกโดยแบงก์ออฟไชน่าออกธนบัตรทุกประเภท ยกเว้น 10 HK$ 


ส่วนอัตราแลกเปลี่ยน 1 HK$ กับเงินบาท อยู่ที่ประมาณ 4-5 บาท แล้วแต่ความผันผวนของค่าเงิน โดย คุณสามารถแลกเปลี่ยนเงินได้จากธนาคารหรือผู้รับแลกเปลี่ยนเงิน ซึ่งธนาคารหรือผู้รับแลกเปลี่ยน จะเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่น คุณควรดูอัตราแลกเปลี่ยนดีๆก่อน ไม่อย่างนั้นอาจจะขาดทุนได้

ในตอนที่ผมเดินทางไปปีที่แล้วนั้น อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ ซื้อ 4.10 บาท ต่อ  1 HK$ ขายที่ 4.07 บาท ต่อ  1 HK$ ครับ ซึ่ง ณ เวลานี้อัตราแลกเปลี่ยนอยู่ที่ ซื้อ 3.85 บาท ต่อ  1 HK$ ครับ เนื่องจากเงินบาทแข็งตัวขึ้นครับ หากใครไปช่วงใกล้ๆ นี้ แนะนำให้แลกเก็บไว้ก่อนเลยครับ จะได้ช้อปปิ้งได้มากขึ้นในวงเงินเท่าเดิมครับ อิอิ

สภาพอากาศแต่ละเดือนของฮ่องกง




สิ่งหนึ่งที่เราต้องวางแผนกันให้ดีก่อนที่เราจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ไม่ว่าประเทศไหนก็ตามนั่นคือ "สภาพอากาศ" ครับ


โดยสภาพอากาศของฮ่องกงนั้้นจะแบ่งออกเป็น 4 ฤดูครับ

ช่วงเดือนมีนาคม - พฤษภาคม จะเป็นฤดูใบไม้ผลิครับ อากาศจะเย็นสบาย อุณหภูมิเฉลี่ย  18-25 องศาเซลเซียส

ช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม จะเป็นฤดูร้อน สภาพอากาศจะร้อนและมีฝนตกชุก อุณหภูมิเฉลี่ย  28-30 องศาเซลเซียส (ผมไปฮ่องกงครั้งแรกตอนปลายเดือนกรกฎาคมครับ เจอฝนทั้งสามวันเลย สนุกไปอีกแบบ 555)

ช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน  จะเป็นฤดูใบไม้ร่วง สภาพอากาศจะเย็นสบาย  อุณหภูมิเฉลี่ย  21-27 องศาเซลเซียส สำหรับผมขอแนะนำว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เหมาะสำหรับท่องเที่ยวมากที่สุดครับ อากาศกำลังสบาย ไม่หนาวเกินไป ไม่เจอฝนครับ

สว่นช่วงปลายปีไปถึงต้นปี อย่างเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ จะเป็นฤดูหนาวครับ  อากาศค่อนข้างหนาว   อุณหภูมิเฉลี่ย  16-17 องศาเซลเซียส  แต่บางวันอาจต่ำกว่า 10 องศา หากใครชอบอากาศหนาวๆ แนะนำไปช่วงนี้เลยครับ ได้หนาวสมใจแน่ :)

ลองดูนะครับว่าสภาพอากาศแต่ละช่วงเป็นอย่างไร เพื่อการวางแผนเที่ยวอย่างสนุกนะครับ

ปล. คุณสามารถดูการรายงานสภาพอากาศแบบเรียลไทม์ได้ที่ http://www.weather.gov.hk/contente.htm



ความแตกต่างของเวลาระหว่างฮ่องกงกับประเทศไทย




เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อผมกำลังมองหาตั๋วเครื่องบินที่จะเดินทางไปเที่ยวฮ่องกงเมื่อปีที่แล้ว ในขณะที่กำลังเช็คเรื่องเวลา แอบเห็นว่า เอ๊ะ ทำไมเวลาการบินไปฮ่องกงนั่นต่างจากเวลาบินกลับมาไทยอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว จากรูปด้านบนจะเห็นได้ว่า เครื่องบินออกจากไทยตอนเวลา 06:30 น. แต่ไปถึงฮ่องกงเวลา 10:15 น. รวมใช้เวลาบินเกือบ 4 ชั่วโมง แต่ตอนกลับนั้น เครื่องออกจากฮ่องเวลา  10:45 น.แต่มาถึงประเทศไทยเวลา 12:35 น. รวมใช้เวลาบินไม่ถึง 2 ชั่วโมง อะไรกันเนี่ย?

ซึ่งคำตอบของเรื่องนี้ก็คือ "ความแตกต่างของเวลา" ครับ

อย่างที่เราเคยเรียนกันมาตั้งแต่เด็กแล้วนะครับว่า แต่ละประเทศจะมีการใช้มาตราฐานของเวลาไม่เท่ากัน  ยิ่งประเทศที่อยู่ไกลเรามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีความแตกต่างของเวลามากขึ้นเท่านั้นครับ

โดยฮ่องกงนั้นจะมีเวลาที่เร็วกว่าประเทศไทย 1 ชั่วโมงครับ ยกตัวอย่างว่า หากตอนนี้ในเมืองไทยเป็นเวลาเที่ยงตรง เวลาในขณะเดียวกันที่ฮ่องกงจะเป็นเวลาบ่ายโมงครับ ซึ่งความต่างของเวลาที่ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่นี่จึงไม่เป็นปัญหาแก่นักท่องเที่ยวชาวไทยครับ

หากคุณเดินทางไปถึงฮ่องกงแล้ว ก็อย่าลืมปรับเวลาบนนาฬิกาของคุณให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 1 ชั่วโมงด้วยนครับ


คนฮ่องกง พูดภาษาอะไรกันบ้าง?



อุปสรรคที่ผมกังวลใจเป็นอันดับต้นๆ ในการที่จะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศก็คือ "เรื่องภาษา" ครับ เพราะเนื่องจากเป็นคนที่ทักษะเรื่องภาษาต่างประเทศไม่ได้ดีเท่าไหร่ ก็คือ อ่านได้ พอแปลได้บางคำ พูดได้แบบปะติดปะต่อ ทำให้รู้สึกกังวลใจว่า ถ้าเราไปที่ไหนที่หนึ่งในฮ่องกง หรือต้องการจะถามตำแหน่งของแหล่งท่องเที่ยว รถโดยสารสายที่จะผ่าน หรือตำแหน่งที่พัก หรืออะไรก็ตาม เราจะพูดได้ไหม วันนี้ ผมเลยอยากจะมาช่วยให้คุณที่อาจจะไม่เก่งภาษาต่างประเทศเหมือนผม ได้เบาใจลงไปบ้างครับ

ภาษาราชการของฮ่องกงนั้นคือ ภาษาอังกฤษและจีนกวางตุ้ง แต่คนฮ่องกงส่วนใหญ่จะเข้าใจภาษาจีนกลางได้ดี ส่วนภาษาอังกฤษนั้น คนฮ่องกงก็สามารถพูดได้ดีเช่นกัน เนื่องจากฮ่องกงเคยเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ ในขณะเดียวกัน ฮ่องกงก็ยังอยู่ในอาณาเขตการปกครองของจีนด้วย

หากคุณไม่สามารถพูดภาษาจีนได้ก็ไม่ต้องกังวลครับ ขอให้ภาษาอังกฤษงูๆ ปลาๆ หน่อยก็พอโอเคครับ

ส่วนภาษาไทยนั้น ในสถานที่ที่ได้รับความนิยม อย่างแหล่งช้อปปิ้งที่ได้รับความนิยมจากคนไทย ผู้คนแถวนั้นก็จะสามารถพูดภาษาไทยได้ด้วยครับ

และจากที่ผมเคยไปฮ่องกงจะสังเกตได้ว่า ป้ายบอกเส้นทางหรือสถานที่ต่างๆ มักจะมีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษรวมอยู่ในป้ายเดียวด้วยครับ ซึ่งคำที่ใช้ก็ไม่ได้เป็นคำศัพท์ที่ยากเลยครับ

หากคุณมีมือถือสมาร์ทโฟน ผมขอแนะนำให้ดาวน์โหลดโปรแกรมหรือแอพที่เป็นพวกดิกชั่นนารีแบบออฟไลน์นะครับ เวลาเจอคำไหนที่ไม่คุ้นก็เปิดค้นหาพร้อมแปลได้เลยครับ

เป็นอย่างไรบ้างครับ พอคลายความกังวลใจไปได้บ้างไหมครับ :)

ไปฮ่องกง ต้องขอวีซ่าหรือไม่?



หลายคนที่ไม่เคยเดินทางไปเที่ยวฮ่องกง อาจจะสงสัยว่า ถ้าจะไปเที่ยวแล้ว จะต้องขอวีซ่าหรือไม่? ซึ่งวันนี้ ผมจะตอบคำถามนี้ให้ทราบครับ

แม้ว่า ฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ซึ่งการจะเดินทางเข้าสู่ประเทศจีนนั้น คุณจะต้องทำการยื่นขอวีซ่าที่สถานทูตประเทศจีนในเมืองไทยในช่วงก่อนที่จะเดินทางไป แต่สำหรับฮ่องกง(และมาเก๊า) นั้นมีข้อยกเว้นครับ โดยคุณ "ไม่ต้องขอวีซ่า" ครับ

เพียงคุณมีหนังสือเดินทาง (Passport) คุณก็สามารถไปเที่ยวฮ่องกงและมาเก๊าได้แล้วครับ โดยคุณสามารถท่องเที่ยวหรืออาศัยอยู่ได้ในฮ่องกงไม่เกิน 3 เดือน (จากเดิม 14 วัน) เพียงแต่ว่า ก่อนที่จะเข้าฮ่องกง คุณจะต้องกรอกแบบฟอร์มการเข้าเมืองให้ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ และทำการยื่นให้เจ้าหน้าที่พร้อมกับหนังสือเดินทางเพื่อทำการตรวจสอบก่อนนะครับ

อย่าลืมนะครับว่า มาเก๊าก็สามารถเที่ยวได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่าครับ หลายคนเลยเลือกที่จะไปเที่ยวทีนึงก็ไปทั้งฮ่องกงและมาเก๊าในทริปเดียวครับ

ไว้คราวหน้าผมจะมาเล่าเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับฮ่องกงอีกนะครับ

ประวัติเมืองฮ่องกง



ก่อนที่เราจะข้ามไปยังสเต็บของการท่องเที่ยว ผมอยากจะขอนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับฮ่องกงในแง่ของประวัติเมืองฮ่องกงให้คุณได้ทราบกันก่อนนะครับ ซึ่งน่าจะช่วยให้คุณซึมซับเกี่ยวกับเมืองฮ่องกงได้ดีขึ้นนะครับ

ประวัติเมืองฮ่องกง


เดิมเมืองฮ่องกงนี้เคยเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมง จนเมื่อกระทั่งปี ค.ศ.1842  ราชวงศ์ชิงได้ประสบความพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น (Opium Wars) ทำให้ฮ่องกงต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษตามสนธิสัญญานานกิง

และในปี ค.ศ.1860 คาบสมุทรเกาลูนจึงถูกส่งมอบให้แก่อังกฤษ และสุดท้ายในปี ค.ศ.1898 ประเทศอังกฤษได้ลงนามในสัญญาเช่าพื้นที่เขตนิวเทอร์ริทอร์รี่ส์จากจีน ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ทางตอนเหนือของเกาลูนขึ้นไป จนถึงแม่น้ำเสิ่นเจิ้น รวมถึงเกาะรายรอบอีก 235 เกาะ เป็นเวลา 99 ปี

ฮ่องกงกลับคืนสู่การปกครองของจีนอีกครั้ง ในวันที่ 1 ก.ค. 1997 ภายใต้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” โดยเป็นเขตการปกครองพิเศษของสาธารณรัฐประชาชนจีน และภายใต้ระบบนี้ทำให้ฮ่องกงปกครองตนเองได้เต็มที่ คือสามารถใช้ระบบทุนนิยมได้เช่นเดิม มีระบบศาลและกฎหมายเป็นของตัวเอง มีการค้าเสรีและมีอิสรภาพในการแสดงความคิดเห็น

อ่าวที่สวยงามของฮ่องกง เป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาฮ่องกง เนื่องจากเป็นท่าเรือค้าขายและท่าเรือปลอดภาษีของจีน โดยในช่วงยุคอุตสาหกรรม ฮ่องกงได้กลายเป็นศูนย์กลางด้านบริการและการเงินชั้นนำของเอเชีย วัฒนธรรมตะวันออกและตะวันตกได้หล่อหลอมรวมกันเป็นหนึ่งเดียว รวมทั้ง แหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลาย และชนบทที่สวยงาม ทำให้ฮ่องกงเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในเอเชียของนักท่องเที่ยว

เป็นอย่างไรบ้างครับ ได้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับประวัติของเมืองฮ่องกงแล้ว ทำให้คุณอยากจะไปค้นหาเพิ่มขึ้นไหมครับ